รีวิว Death’s Door
ทำความรู้จักกับ Death’s Door
รีวิว Death’s Door เป็นเรื่องปกติที่สตูดิโอเกมขนาดเล็กจะยืมสไตล์ของเกมยอดนิยมและสร้างขึ้นมาเอง ก่อนหน้านี้ หลายเกมที่ผลิตโดยค่ายอิสระได้นำรูปแบบเกมระดับตำนานมาใช้และทำซ้ำ บางครั้งก็ทำงานได้ดีและใกล้เคียงกับต้นฉบับ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทีมเล็ก ๆ ที่นำทั้งสองตำนานมารวมกันได้เปิดตัว Death's Door
"Death's Door" เป็นผลงานของ Acid Nerve จากแมนเชสเตอร์ สร้างจากเรื่องราวในตำนานของวงการเกมอย่าง The Legend of Zelda ผสมผสานกับเกมสุดโหดอย่าง "Dark Souls" และนำเสนอด้วยกราฟิกที่เรียบง่าย ในเกมแอคชั่น 2 มิติ มุมมองแนวทแยงจากด้านบนดูเรียบง่ายและไม่เกะกะ แต่หลังจากได้สัมผัสมันแล้ว ฉันคิดว่า Death's Door นั้นดีกว่าที่คาดไว้ เกมดังกล่าวจะวางจำหน่ายบน PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox One, Nintendo Switch, Xbox Series X และ Series S และ PC
กราฟิกของเกม Death’s Door
Death's Door ใช้งบประมาณต่ำและคงกราฟิกที่เรียบง่าย โดยมีนกสีดำที่มีลักษณะผีสิงมาก ที่ต้องผจญภัยไปในดินแดนลึกลับที่เต็มไปด้วยปีศาจร้าย มุมกล้องเป็นแบบ 2 มิติ และมองจากด้านทแยงมุมผู้เล่นไม่สามารถเปลี่ยนมุมกล้องได้เลย แต่มุมกล้องของเกมจะเปลี่ยนไปแค่บางจุดเท่านั้น เช่น ในฉากที่มีทางลับซ่อนอยู่ หรือเมื่อบอสเลเวลปรากฏขึ้นมุมกล้องก็จะถูกปรับให้ดูอลังการทำให้บอสดูน่ากลัวยิ่งขึ้น
แต่โดยรวมแล้ว กราฟิกของ Death's Door ยังขาดรายละเอียดบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นผิวยังดูเปลือยเปล่าและตัวละครหลักไม่โดดเด่น แต่ต้องเข้าใจว่านี่เป็นทีมเล็กและไม่มีทุนสร้างมากนัก ส่วนเพลงประกอบอาจจะดูไม่สอดคล้องกับกราฟิกเลย เพราะมีธีมยิ่งใหญ่และเพลงไพเราะโดยเฉพาะเวลาต่อสู้กับบอส มันเหมือนกับการเล่นเกมแอคชั่นกับฝ่ายที่มีชื่อเสียง อย่างไรก็ตาม มันไม่มีการแสดงเสียง นี่ถือว่าน่าเสียดายเล็กน้อย เนื่องจากทำให้การเล่าเรื่องดูจืดชืดเล็กน้อย
เกมเพลย์ของ Death’s Door
เมื่อคุณเริ่มเกม คุณจะเล่นเป็นตัวละครอีกาที่ดูไม่น่ารักจนเกินไป เขาจะเป็นผู้รวบรวมวิญญาณ และจะทำงานที่สำนักงานใหญ่ของ Harvest Council ซึ่งเป็นทีมที่รับผิดชอบเรื่องชีวิตหลังความตาย ตัวละครของเราจะถูกส่งไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อรวบรวมวิญญาณของสัตว์ต่าง ๆ และจะต้องต่อสู้กับระดับบิ๊กบอสเพื่อเปิดประตูแห่งความตายใหม่ซึ่งเป็นชื่อของเกม มันจะทำให้เรามีเรื่องราวที่ไม่คาดคิดและจุดหักมุมในตอนท้ายของเกม และมีฉากจบมากมาย
อย่างที่ฉันบอกไปแล้ว รูปแบบเกมของ Death's Door เป็นเกมแอคชั่น 2 มิติที่คุณต้องต่อสู้กับศัตรูโดยใช้อาวุธในสถานการณ์ต่าง ๆ คุณต้องม้วนตัว คุณต้องหลบ และจากนั้นคุณต้องหาจังหวะตอบโต้ และคล้ายกับซีรีส์ "Dark Souls" คือความยาก แม้แต่ศัตรูธรรมดา ๆ ก็สามารถฆ่าเราได้อย่างง่ายดายและบอสในเกมก็ค่อนข้างโหดร้าย เราต้องวิ่งหนีและหาทางสู้กลับ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย หากผู้เล่นคว้าช่วงเวลานั้นได้ พวกเขาสามารถถูกกำจัดได้ แต่ต้องเป็นคนหัวร้อน
นอกจากนี้เกมไม่ได้ให้ผลอะไรกับผู้เล่นมากนัก เนื่องจากไม่มีระบบแผนที่ ผู้เล่นจึงต้องหาทางของตัวเองเพื่อไปต่อ ส่วนอาวุธก็จะมีระยะใกล้เพียงไม่กี่อย่างเช่นดาบ หรืออาวุธระยะไกลเช่นธนูก็มีเวทย์มนตร์บางอย่างที่สามารถใช้ได้ แต่มันก็มีการใช้งานจำกัดและไม่ได้ช่วยอะไรมาก ลักษณะเด่นของประตูแห่งความตายจึงเน้นไปที่งานฝีมือ ส่วนถ้าเราพลาดความตาย เราก็จะกลับไปยังประตูแห่งความตายที่ใกล้จุดตายที่สุด และเพื่อความสะดวก จะไม่มีจุดเซฟ ส่วนตัวละครนั้นความสามารถสามารถอัพเกรดได้แต่ต้องกลับไปสู่จุดเริ่มต้น และใช้พลังวิญญาณที่ได้รับจากการปราบศัตรูเพื่อเพิ่มค่าตัวละครในส่วนต่าง ๆ
แก้ปริศนาแบบพอมีให้พอประมาณ
ส่วนปริศนาก็มีอีกมากมาย เราต้องดูฉากอย่างระมัดระวังเพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนมุมกล้องได้ ซ่อนไว้หลังจอ การค้นหาไอเท็มเพื่อปลดล็อกและหาวิธีดำเนินการต่อนั้นคล้ายกับเกม Legend of Zelda แม้ว่าอาจจะไม่ซับซ้อนก็ตาม แต่นี่ก็ถือเป็นข้อได้เปรียบเนื่องจากเราจะสามารถมุ่งความสนใจไปที่ความโหดร้ายของศัตรูที่ปรากฏไม่หยุดหย่อน แม้ว่าฉากในเกมจะเป็น 2 มิติ แต่มุมมองก็ดูล้าสมัย แต่จะมีหลายแบบ และในฉากประตูแห่งความตายจะปรากฏขึ้นเป็นระยะทำให้ผู้เล่นสามารถกลับไปยังฉากเริ่มต้นได้ซึ่งเปรียบเสมือนฐานที่เราสามารถฟื้นฟูความแข็งแกร่งและอัพเกรดตัวละครได้
สำหรับยาเพิ่มพลังงานนั้นไม่มีเลย เราต้องใช้ดอกไม้กระถางในฉากเพื่อชาร์จ นี่ถือว่าแปลกและทำให้ยากขึ้น ข้อสังเกตอีกประการหนึ่งคือตัวเกมไม่ได้ยาวมากนักเมื่อเทียบกับเส้นทางดั้งเดิมที่ผู้สร้างพยายามติดตาม แต่ก็ไม่สั้นเกินไปใช้เวลาประมาณ 9-10 ชั่วโมงจึงจะเสร็จ เมื่อเทียบกับราคาขายที่ถูกกว่าก็ยังถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
โดยรวมแล้ว Death's Door อาจจะไม่โดดเด่นมากเท่ากับเกมต้นฉบับที่พยายามจะเลียนแบบ แต่อย่าประมาทเพราะเกมนี้มีดีกว่าที่คุณคิด เพราะมันง่ายที่จะทำกับการเล่นเกม 2D แต่ความโหดร้ายของการเล่นเกมสามารถทำให้เราเกินหัวได้เล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีปริศนาที่น่าสนใจให้แก้อีกด้วย ถ้าคุณชอบ Zelda และ Dark Souls นี่เป็นอีกเกมที่ฉันแนะนำ
อ่านเพิ่มเติม : ดาวน์โหลดเกม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น